
สื่อต่างชาติล้วนประหลาดใจ หลังตำรวจไทย ยอมยุติการปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุม และเปิดทางให้ผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาล สามารถเข้าไปภายในสถานที่ราชการหลายแห่งได้อย่างง่ายดาย ก่อนหน้าวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ
หลังจากการปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างตำรวจปราบจลาจล กับกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาล ตลอด 3 วันที่ผ่านมา สื่อมวลชนต่างชาติต่างจับตา และรายงานเกาะติดสถานการณ์การประท้วงในประเทศไทยมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (3 ธ.ค.) ทำให้สื่อต่างชาติเกือบทุกสำนักต่างพากันประหลาดใจ หลังจากตำรวจตัดสินใจประกาศเลิกใช้แก๊สน้ำตา พร้อมเคลียร์แท่งแบริเออร์ และเปิดประตูต้อนรับกลุ่มผู้ประท้วงให้เข้าไปภายในสถานที่ราชการหลายแห่งตามต้องการ
สำนักข่าวอัลจาซีรา ของกาตาร์ พาดหัวข่าวเหตุการณ์ในไทย โดยระบุว่า ความตึงเครียดในไทยลดลงแล้ว หลังจากตำรวจยกเลิกกีดขวางผู้ชุมนุมเข้าไปในสถานที่ราชการหลายจุด
นอกจากนี้ อัลจาซีรา ยังเผยให้เห็นภาพของตำรวจ และผู้ประท้วงยิ้มแย้มให้กัน แตกต่างจากบรรยากาศหลายวันที่ผ่านมา ซึ่งตึงเครียด และร้อนแรง ขณะที่ สก็อต ฮีดเลอร์ ผู้สื่อข่าวของอัลจาซีรา รายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า สภาพภายในพื้นที่ดังกล่าวเปลี่ยนจากสมรภูมิเดือด กลายเป็นงานคาร์นิวาลอย่างน่าประหลาดใจ
รายงานของอัลจาซีรา สอดคล้องกับสำนักข่าวบีบีซี ของอังกฤษ ที่ระบุว่า อุณหภูมิความร้อนแรงทางการเมืองในกรุงเทพฯ ดูเหมือนจะลดลงอย่างชัดเจน หลังจากตำรวจยอมเปิดทางให้ผู้ประท้วงเข้าไปภายในจุดหมายที่พวกเขาต้องการ ขณะเดียวกันก็อ้างคำบรรยายของสำนักข่าวเอเอฟพีว่า บรรยากาศในพื้นที่ซึ่งทั้งสองฝ่ายเคยปะทะกัน กลายเป็นงานคล้ายคาร์นิวาล เมื่อผู้ประท้วงพากันไปโบกธงชาติ และเป่านกหวีดอย่างสนุกสนานภายในสนามหญ้าหน้าทำเนียบรัฐบาล
ด้านสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ของสหรัฐฯ รายงานโดยอ้างคำพูดของพลโท ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่ให้เหตุผลต่อปรากฏการณ์ครั้งนี้ว่า การเปิดทางให้ผู้ประท้วงเข้าไปภายในทำเนียบรัฐบาล และสถานที่ราชการหลายแห่งตามที่ผู้ชุมนุมต้องการ เป็นผลมาจากข้อตกลงร่วมกันระหว่างรัฐบาล กับผู้ประท้วง เพื่อยุติความขัดแย้งก่อนหน้าวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ (5 ธ.ค)
