นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
กลายมาเป็นประเด็นร้อนๆ ในสังคมอีกครั้ง เมื่อมีภาพคุณยายหน้าละหม้ายคล้ายกับ คุณแม่อ้อย แม่ของดาราตลก โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม ที่เคยเกิดกรณีหนีออกจากบ้านไปอาศัยอยู่ที่วัด เมื่อ 2 ปีก่อน คุณยายอ้อย ป่วยเพราะลื่นล้มห้องน้ำ จนมีแผลเหวอะหวะยังไม่หายตามร่างกาย เนื่องจากโรคเบาหวาน ล่าสุด โป๊งเหน่ง กับครอบครัวออกมาพูดครั้งแรก ชี้แจงทุกประเด็นที่สังคมรุมด่า!
พูดเกี่ยวกับประเด็นข่าวล่าสุด?
"ตอนนี้ในโลกของโซเชียลไปลงข่าว อย่าพูดว่าผมแก้ตัวนะ แต่ก็ต้องพูดบ้าง ต้องขอบคุณที่มีคนให้กำลังใจ ก็มีคนมาด่าบ้าง ก็โอเค เรื่องที่ผ่านมาไม่ต้องพูดดีกว่า พูดเรื่องปัจจุบันคือเราไปรับแม่มาอยู่ได้เดือนกว่าๆ แกอยู่ไม่ได้ แกเหงา ไม่มีความผูกพันกับคนในครอบครัว จนหนีไป เราก็ไปตามที่เก่า เขาก็ไม่กลับ ก็ไปบอกหลวงพ่อที่นั้น ท่านก็บอกถ้าเขาอยากมาอยู่วัดจะจัดการดูแลให้เอง ทางเราก็บอกจะดีเหรอ ไปบ้านพักคนชราดีกว่าไหม เราเลยติดต่อไป ผลตอบรับคือได้ เราก็เตรียมมารับแม่ สรุปเขาก็ไม่ไป ขออยู่ที่วัด หลวงพ่อเลยขอดูแลต่อเอง"
"ตอนนี้ในโลกของโซเชียลไปลงข่าว อย่าพูดว่าผมแก้ตัวนะ แต่ก็ต้องพูดบ้าง ต้องขอบคุณที่มีคนให้กำลังใจ ก็มีคนมาด่าบ้าง ก็โอเค เรื่องที่ผ่านมาไม่ต้องพูดดีกว่า พูดเรื่องปัจจุบันคือเราไปรับแม่มาอยู่ได้เดือนกว่าๆ แกอยู่ไม่ได้ แกเหงา ไม่มีความผูกพันกับคนในครอบครัว จนหนีไป เราก็ไปตามที่เก่า เขาก็ไม่กลับ ก็ไปบอกหลวงพ่อที่นั้น ท่านก็บอกถ้าเขาอยากมาอยู่วัดจะจัดการดูแลให้เอง ทางเราก็บอกจะดีเหรอ ไปบ้านพักคนชราดีกว่าไหม เราเลยติดต่อไป ผลตอบรับคือได้ เราก็เตรียมมารับแม่ สรุปเขาก็ไม่ไป ขออยู่ที่วัด หลวงพ่อเลยขอดูแลต่อเอง"
ยืนยันว่าไม่ได้ทอดทิ้งแม่?
"ลูกผมไป ผมไปบ้าง ล่าสุดเมื่อวันแม่ ภรรยาบังคับให้ไป เพราะผมทำงานจนลืมวันลืมคืน ก็ไปกราบเท้าท่าน นำน้ำล้างเท้าแม่มาล้างหน้าผม ยังให้ลูกถ่ายรูปเก็บไว้ในมือถือ แต่ไม่เคยป่าวประกาศบอกใครว่าเรามาเยี่ยม ไม่จำเป็นต้องบอกว่าไปเยี่ยม ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศ"
"ลูกผมไป ผมไปบ้าง ล่าสุดเมื่อวันแม่ ภรรยาบังคับให้ไป เพราะผมทำงานจนลืมวันลืมคืน ก็ไปกราบเท้าท่าน นำน้ำล้างเท้าแม่มาล้างหน้าผม ยังให้ลูกถ่ายรูปเก็บไว้ในมือถือ แต่ไม่เคยป่าวประกาศบอกใครว่าเรามาเยี่ยม ไม่จำเป็นต้องบอกว่าไปเยี่ยม ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศ"
"กับภาพข่าวที่ออกไปก็ลองไปสืบดู ปรากฏว่าเขาลื่นล้มในห้องน้ำ ต้องผ่าเข่า แต่ต้องมีการเซ็นรับรองจากทางเรา แต่เราติดงานที่ต่างจังหวัด หลวงพ่อก็ตัดสินใจเซ็นแทนให้ จนรักษาเสร็จพากลับมาวัด คนแก่พอนอนมากๆ เกิดแผลกดทับ จะปัสสาวะ-อุจจาระเองไม่ได้ เราก็นำเงินมาให้แม่ ลูกก็มาดูแลด้วย ผมก็ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศให้ใครรู้ ต่อมาทางอนามัยที่อยู่ใกล้วัด โทรมาบอกแม่ คุณทำไมไม่มาดู คนดูแลที่วัดก็บอกผมว่ามีคนมาขอถ่ายรูปแม่ไป ถ้าถ่ายรูปไปธรรมดาจะไม่เป็นไร แต่แหวกแผลถ่าย มดขึ้นแผลก็เพราะแม่ท่านเอาน้ำผึ้งมาทาแผล ตามความเชื่อโบราณว่าจะหาย"
"เมื่อวานก็เพิ่งไปเยี่ยมมา ตอนนี้ปรึกษากับหลวงพ่อ หาคนมาดูแลเต็มที่ 10,000 บาทต่อเดือน ล่าสุดเกิดเรื่องอีก ลูกศิษย์ของหลวงพ่อมารับแม่ผมไป บอกอยากช่วยดูแล นำไปรักษา ถ้าแอดมิดหรือทำอะไรเสร็จก็จะส่งมาที่วัดเหมือนเดิม ผมก็เพิ่งทราบข่าวเมื่อสักครู่นี้เอง"
นอยด์ไหมที่คนโจมตีด่าเรา?
"เหวอไปทั้งวันเลย ถ่ายละครไม่ได้ ขับรถใจลอยตลอด ไม่ใช่ไม่ดูแลแม่ ผมต้องทำงาน เลี้ยงลูก 6 คน ผมไม่ว่างก็ให้ลูกไปดูแล ไม่เคยทิ้งเลยครับ ชีวิตผมบอบช้ำมาก โดนคนด่าต่อหน้าว่าเป็นลูกเนรคุณ ลูกอกตัญญู ไม่น่าเชื่อว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ ผมยืนยันว่าไม่ได้ทิ้งแม่เลย ให้ไปถามหลวงพ่อและน้องแอนที่ช่วยดูแลแม่ที่วัด"
"เหวอไปทั้งวันเลย ถ่ายละครไม่ได้ ขับรถใจลอยตลอด ไม่ใช่ไม่ดูแลแม่ ผมต้องทำงาน เลี้ยงลูก 6 คน ผมไม่ว่างก็ให้ลูกไปดูแล ไม่เคยทิ้งเลยครับ ชีวิตผมบอบช้ำมาก โดนคนด่าต่อหน้าว่าเป็นลูกเนรคุณ ลูกอกตัญญู ไม่น่าเชื่อว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ ผมยืนยันว่าไม่ได้ทิ้งแม่เลย ให้ไปถามหลวงพ่อและน้องแอนที่ช่วยดูแลแม่ที่วัด"
มีอะไรจะบอกให้กับคนที่หวังร้าย คอยต่อว่าเราไหม?
"เขาคงไม่หวังร้ายหรอก แต่เขาแค่ไม่รู้ลึกตื้นหนาบาง ก็ขอบคุณที่ห่วงครับ แต่ผมสงสารภรรยามาก ที่โดนว่าไล่แม่ออกจากบ้าน หลงเมียลืมแม่ ผมไม่เคยทิ้งแม่ครับ"
"เขาคงไม่หวังร้ายหรอก แต่เขาแค่ไม่รู้ลึกตื้นหนาบาง ก็ขอบคุณที่ห่วงครับ แต่ผมสงสารภรรยามาก ที่โดนว่าไล่แม่ออกจากบ้าน หลงเมียลืมแม่ ผมไม่เคยทิ้งแม่ครับ"
ขณะที่ทางด้าน ภรรยาของโป๊งเหน่ง เปิดเผยกับกรณีมีปัญหากับแม่สามีว่า "พี่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับแกเลย คือพยาบาลโทรมาหาพี่และถามว่าไม่มีคนมาดูแลแกเลย ลุกไม่ได้ คนที่มาดูแลต้องใช้ค่าใช้จ่ายนะ เราก็ยินดีที่จะให้ แต่เขาเอาไปแปลว่า เราจะเอาเงินฟาดหัว ไม่พอใจเขา เขาเรียกค่าจ้างมา 15,000 บาท พี่ก็บอกไปว่าขอปรึกษาพี่โป๊งเหน่งก่อน เราไม่เคยเกลียดแม่นะ ถ้าเกลียดกันจริงๆ พี่จะให้เขาไปหาทำไม"
