ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (1 พ.ย.) เวลา 03.00 น.ที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในระหว่างการพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในมาตราที่ 3 ได้มีความวุ่นวายเกิดขึ้น เมื่อ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วงว่าการประชุมใช้เวลามานานแล้ว ตั้งแต่ 09.30 - 03.00 น. ว่าการอภิปรายเป็นไปอย่างเร่งรีบผิดปกติ และมีการโต้เถียงกันอย่างดุเดือด ก่อนที่นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม จะสั่งพักการประชุมในเวลา 03.04 น.
เวลา 03.20 น. ที่ประชุมกลับมาพิจารณาอีกครั้ง โดยนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ ชี้แจงว่า ต้องทำให้จบ เพราะหากทำตามอีกฝั่ง ก็ต้องถูกอีกฝั่งต่อว่า ดังนั้นต้องเป็นอำนาจของประธานที่จะวินิจฉัย ซึ่งตนวินิจฉัยให้ประชุมต่อ ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ไม่พอใจ ลุกขึ้นประท้วงและกรูไปหน้าบัลลังค์
ก่อนที่ที่ประชุมมีมติเห็นชอบมาตรา 3 ตามที่คณะกรรมาธิการเสียงข้างมากเสนอแก้ไข ด้วยคะแนน 307 ต่อ 0 คะแนน 0 คะแนน งดออกเสียง 4 เสียง
สภาพิจารณามาตรา 4 โดย น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ลุกขึ้นอภิปรายอย่างมีอารมณ์ แสดงความไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่ก็เคารพเสียงข้างมาก ในขณะเดียวกันก็เรียกร้องความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นด้วย
มาตรา 5 ไม่มีผู้ลุกขึ้นอภิปราย โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมาธิการเสียงข้างมากด้วยคะแนน 311 ต่อ 0 เสียง และงดออกเสียง 5 เสียง
มาตรา 6 ไม่มีผู้ขออภิปราย โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามคณะกรรมาธิการเสียงข้างมากด้วยคะแนน 314 ต่อ 0 เสียง และงดออกเสียง 1 เสียง
มาตรา 7 ไม่มีผู้อภิปราย โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามคณะกรรมาธิการเสียงข้างมากด้วยคะแนน 315 ต่อ 0 งดออกเสียง 1 เสียง
เวลา 04.24 น. กลุ่มส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ตัดสินใจวอล์กเอาต์ เดินออกจาสภาฯ เนื่องจากไม่ได้อภิปราย
เวลา 04.25 น. ที่ประชุมได้ลงมติเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ในวาระที่ 3 ด้วยคะแนน 310 ต่อ 0 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง ก่อนที่นายสมศักดิ์จะสั่งปิดการประชุมทันที
ทั้งนี้ รวมเวลาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ทั้งสิ้น 19 ชั่วโมง ก่อนที่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบในขั้นวุฒิสภาต่อไป
