หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

วุ่นทั้งเมือง! เสี่ยอู่ซ่อมรถคลั่ง ไล่ฟันพระเจ็บ 3 รูป ทำลายข้าวของวัด

วุ่นทั้งเมือง! เสี่ยอู่ซ่อมรถคลั่ง ไล่ฟันพระเจ็บ 3 รูป ทำลายข้าวของวัด
วันที่ 1 พฤศจิกายน พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ได้เดินทางไปวางแผนและบัญชาการยังที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ภายในวัดเขาช่องเสด็จ บ้านหนองหญ้า หมู่ที่ 1 ตำบลหนองหญ้า อำเภอเมือง จ.กาญจนบุรี หลังจากได้รับแจ้งว่า นายอิทธิกร สุขเสริฐ อายุ 40 ปี เสี่ยเจ้าของอู่ซ่อมรถชื่อดัง เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ทำลายข้าวของภายในวัด และ 3 รูป ประกอบด้วย พระธรรมนิเวศ มาตย์นอก หรือ พระเอก อายุ 43 ปี พระลูกวัด ถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่บริเวณศรีษะเหนือกกหูซ้าย คณะแพทย์จึงช่วยทำบาดแผล โดยเย็บถึง 11 เข็ม ส่วน พระอนุชา สิริวรรักษ์ หรือ พระหนุ่ย อายุ 37 ปี ถูกอาวุธมีดฟันที่หน้าผาก แพทย์เย็บ 2 เข็ม คณะแพทย์อนุญาตให้กลับวัดได้ พระปลัดกมล กมลโล อายุ 56 ปี เจ้าอาวาสถูกของแข็งตีเข้าที่กลางศรีษะเป็นแผล ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และเจ็บที่บริเวณขาซ้ายเนื่องจากถูกตีเข้าซ้ำหลายครั้ง


เมื่อไปถึงพบว่า นายอิทธิกร ทำท่าทางปฏิกริยาเหมือนลิงลม เป่าปากเสียงดังคล้ายลิงและร้องโหยหวนอยู่ตลอดเวลา สวมกางเกงในสีเพียงดำตัวเดียว และนำผ้าสีดำที่มีอยู่มาทำหนวดเคราและผมยาวรกรุงรัง ที่มือขวามีมีดพระขันที่มีความแหลมคม ยาวประมาณ 1 ฟุต โดยได้ปิดประตูหน้าต่างของศาลาการเปรียญเอาไว้ พร้อมทั้งทำลายข้าวของภายในศาลาการเปรียญ และขว้างออกมาภายนอกอย่างต่อเนื่อง หากมีใครเข้าไปใกล้หน้าต่างประตู ก็จะใช้หลอดไฟและขวดขว้างใส่ในทันที จึงไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปคุมตัว ท่ามกลางพุทธศาสนิกชนที่จะเดินทางไปทำบุญ แต่ทุกคนไม่กล้าเข้าไปภายในวัด เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย พร้อมกันนี้ ชายคนดังกล่าวได้ทุบทำลายกระจกรถตู้ของวัดที่จอดอยู่หน้าศาลการเปรียญแตกละเอียด ใต้ท้องรถยังพบถังแก๊สอีกด้วย ส่วนประตูหน้าศาลาการเปรียญพบเศษแก้วแตกเกลื่อนพื้นที่เช่นกัน

ต่อมา พล.ต.ต.กมลสันติ ได้ประสานขอรถดับเพลิงเตรียมไว้เพื่อรอจังหวะฉีดพ่นน้ำใส่ นายอิทธิกร ให้เสียหลักหวังเข้าชาร์ตคุมตัว แต่เวลาผ่านไปนานกว่า 3 ชั่วโมง ก็ยังไม่สามารถดำเนินการใดๆ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้ระเบิดเสียง และระเบิดควัน แต่ก็ยังไม่เป็นผล นายอิทธิกร ไม่ได้มีที่ท่าว่าจะอ่อนลง ล่าสุดเจ้าหน้าที่หน่วยผสม ชุด ปราบจลาจล โดยมีทั้งโล่ กระบอง และอาวุธกระสุนปืนยาง เตรียมไปด้วย พล.ต.ต.กมลสันติ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เปิดประตูเหล็กศาลาการเปรียญเข้าไป จากนั้นให้รถดับเพลิงได้ฉีดน้ำพ่นใส่เพื่อให้ นายอิทธิกร เสียหลักล้ม แต่ก็ไม่เป็นผล นายอิทธิกร ยังได้ใช้อาวุธมีดที่ถืออยู่ในมือวิ่งเข้าหาเจ้าหน้าที่ด้วย เจ้าหน้าที่จึงระดมยิงกระสุนปืนยางจำนวนหลายนัด จนในที่สุด นายอิทธิกร ก็ล้มลง แต่ก็ยังมีอาการคุ้มคลั่งให้เห็นอยู่ จากนั้นจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาเพื่อรักษาต่อไป

นางสุมาลี สุขเสริฐ อายุ 38 ปี ภรรยา เผยว่า สามีเปิดอู่ซ่อมรถอยู่ที่ตำบลหนองขาว ชื่ออู่ช่างคิด ปกติสามีเป็นคนดื่มเหล้า และจะอดเหล้าช่วงเข้าพรรษา 3 เดือนทุกปี และวานนี้ (31 ต.ค.) ขณะทำงานอยู่ที่อู่ก็เกิดคุ้มคลั่งขึ้นมา และทำร้ายตนจนได้รับบาดเจ็บ จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองขาวมาคุมตัวไปสงบสติที่โรงพัก จนกระทั่งอาการดีขึ้น จึงให้กลับบ้าน จากนั้นสามีบ่นกับตนว่าอยากบวช และขอไปบวชที่วัดเขาช่องเสด็จ จึงพาสามีมาที่วัดเพื่อพบเจ้าอาวาส และได้นอนค้างที่วัด เพื่อเตรียมตัวบวชพระในเช้าวันนี้ จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันนี้ ก็ได้รับแจ้งจากทางวัดว่า สามีเกิดอาการคลุ้มคลั่งทำลายข้าวของภายในวัด และใช้มีดไล่ฟันพระได้รับบาดเจ็บหลายรูป จึงรีบเดินทางมาที่วัดเพื่อเกลี่ยกล่อมให้สงบสติอารมณ์ แต่ไม่สามารถทำได้
ด้านพระปลัดกมล กมลโล เผยว่า หลังจากที่พระทุกรูปกลับมาจากเดินบิณฑบาต ก็พบว่าข้าวของภายในวัดแตกกระจัดกระจาย นกกาที่เลี้ยงเอาไว้ในกรงก็ถูกฆ่าจนเสียชีวิต และพบว่า นายอิทธิกร เกิดอาการคุ้มคลั่งทำลายข้าวของอย่างไม่ได้สติ อาตมาและพระลูกวัด รวมทั้งชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงได้มาช่วยกันห้ามปราม แต่ไม่ยอมเชื่อ ดังนั้นทั้งพระและญาติโยมเกือบ 10 คน จึงเข้าไปช่วยกันจับตัวพร้อมทั้งเอาไม้ตีเพื่อให้สลบ แต่ก็ยังไม่สามารถจับตัวได้ ขณะเกิดการชุลมุนอยู่นั้น นายอิทธิกร ได้คว้าเอามีดปลายแหลมไล่ฟันแทงอาตมาและพระลูกวัดจนได้รับบาดเจ็บ และยังไปคว้าเอาถังแก๊สมาไว้ที่ใต้ท้องรถตู้เพื่อจะเผาทำลาย โชคดีที่ นายอิทธิกร ไม่มีไฟแช็ก หรือไม้ขีด อยู่ใกล้มือ อาตมาจึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาควบคุมตัวดังกล่าว