นางเอกละครไทยสมัยนี้ จะมัวมาจำเจกับคาแรคเตอร์แบบเดิมๆ ถูกกลั่นแกล้ง อ่อนแอ เจ้าน้ำตา สะอึกสะอื้น วนเวียนไปมาแบบนี้ อีกไม่นานก็ถูกคนดูลืม... เป็นดาราสมัยนี้ต้องเลิกนึกถึงภาพลักษณ์ของตัวเองไปเลย บทไหนเด่น บทไหนแรง ท้าทายดี..ต้องรีบจับเอาไว้ให้ได้
สังเกตง่ายๆ ช่วงนี้ นางเอกเบอร์หนึ่ง เบอร์ต้นๆ หันพลิกมารับเล่นบทร้ายๆ กันทั้งนั้น อันไหนที่ว่าแรง..ขอให้ฉันได้เล่น เพราะสมัยนี้ที่ยืนในวงการช่างคับแคบเหลือเกิน แต่ใช่ว่า "นางเอก" ทุกคนจะ "เล่นร้าย" แล้วดังเสมอไป นี่คือตัวอย่างของ "ความกล้าเปลี่ยนแปลง" พวกเธอเหล่านี้..เคยทำให้วงการละครไทยสั่นสะท้านมาแล้ว
อ้อม พิยดา เห็นเป็นนางเอกใสๆ หวานๆ มาตั้งแต่เด็ก จำได้แม่นจากผลงานเรื่องแรก "ทอฝันกับมาวิน" เมื่อสิบกว่าปีก่อน บางทีก็เป็นนางเอกแสนรันทด อย่างในเรื่อง "รักเธอทุกวัน" หรือ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์ร้าย" แต่มาพลิกบทบาทในละครดังเมื่อปี 2552 "อาทิตย์ชิงดวง" เล่นร้ายจัด แม้กระทั่ง 'นก สินจัย' ยังเงิบ! อีกทั้งยังได้รับบท "คุณประยงค์" ผีสิงในภาพวาด ที่หึงร้ายตามหลอนทุกชาติไปในละคร "ภาพอาถรรพณ์" (2556)
ยุ้ย จีรนันท์ ครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนางเอกเจ้าน้ำตา เบอร์ต้นๆ ของช่อง 7 สี ใครจะลืมลงกับบทน่าสงสารอย่าง แม่น้อย ในละคร "คมพยาบาท" ก่อนจะพลิกบทบาทครั้งสำคัญกับความร้ายสุดขั้วกับบท "คุณสาลี่" ในละครรีเมค "นางทาส" (2551) ที่ร้ายผสมโรงกับ อีป่วน จนเดินตลาดไม่ได้ อีกทั้งยังตามมาร้ายกับปมแค้นในรักกับบท "ปานเดือน" ในละครเรื่องดัง "พระจันทร์ลายพยัคฆ์" (2553) จน ยุ้ย จีรนันท์ ได้รับคำชื่นชมว่า นางเอกก็ได้ นางร้ายก็ดี
นุ่น ศิรพันธ์ สาวคนนี้ถือเป็น "นักแสดงตัวจริง" นางเอกลุยๆ ที่มักจะได้รับบทแก่นๆ ในละครหลายเรื่องเช่น "นางสาวเย็นฤดี" , "ยุทธการหักคานทอง" หรือ "สองผู้ยิ่งใหญ่" และมาพลิกบทบาทอย่างยิ่งใหญ่ กับการรับบท "อีแพง" ผีสาวเสน่หาในความรัก จากละครดังเรื่อง "บ่วง" เพราะความดุร้าย อาฆาตแค้น ตีบทแตกกระจุย ทำให้คนอินกับละครเรื่องนี้ไปทั่วบ้านทั่วเมือง ร้ายจนได้ดี..ถึงขนาดผู้จัดละครยังกุมขมับ ส่งบทนางเอกหรือนางร้ายให้เล่นเรื่องต่อไปดี
พิ้งกี้ สาวิกา เป็นนางเอกก๋ากั่นใต้ชายคาช่อง 7 สี มาตั้งแต่แจ้งเกิดเข้าวงการ แต่พอผ่านพ้นลมมรสุมลูกนั้นมาได้ ชีวิตใหม่ของนางเอกสาวคนนี้ก็เริ่มต้นขึ้น กับการรับบทบาท "ดีนี่" นางแบบสาวสุดมั่น ที่พร้อมจะเหยียบหัวใครเพื่อไต่เต่าไปสู่หนทางที่กว่า ในละครรีเมค "มารยาริษยา" การรับบทร้ายครั้งแรกกลายเป็นที่โจษจันทั่วบ้านทั่วเมือง ความหมั่นไส้เพิ่มทวีคูณขึ้นเพราะละครเรื่องนี้ นี่ยังไม่พร้อมความร้าย..กร้านโลกในบท "นังทองดี" ในละครแซ่บๆ "ทองประกายแสด" ที่ร้ายเวอร์!
กบ สุวนันท์ ชื่อการันตีกับบทบาท "นางเอกเจ้าน้ำตา" ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยก็ยังลบไม่ขาด ตั้งแต่สมัย "ดาวพระศุกร์" , "สวรรค์เบี่ยง" หรือ "หลงเงาจันทร์" แต่ละครทิ้งท้าย ก่อนจะลาไปมีครอบครัว ในละครเรื่อง "เรือนซ่อนรัก" (2553) การพลิกบทบาทครั้งยิ่งใหญ่ รับบท "หม่อมหลวงดารารุ่ง" ที่มีปมความรัก จึงผนึกเป็นความแค้น ที่ร้าย..แอบจิต จนเป็นที่ชัง สมบทบาทสมกับระดับนางเอกสองทศวรรษผู้นี้
พลอย เฌอมาลย์ คร่ำวอดอยู่ในวงการละครไทยมาตั้งแต่อายุ 15 รับบทนางเอกมาเรื่อยๆ แต่กลับเปรี้ยงปร้าง ดังเป็นพลุแตก! กับการพลิกเล่นร้ายครั้งที่เปลี่ยนชีวิตกับละครดัง "ระบำดวงดาว" (2553) บทบาท "หวานหวาน" ดาราเจ้าบทบาทที่พร้อมตะกายขึ้นไปสู่ดวงดาว ไม่สนว่าจะมีอะไรขวางทางอยู่ บทร้ายครั้งนี้กลายเป็นจุดแจ้งเกิดเต็มๆ ของเธอในวงการละคร อีกทั้งยังตามมาด้วยบทร้าย "คุณรำพึง" ในละคร "บ่วงบาป" ที่ร้ายจัดจ้าน..เปลืองตัว ใครๆ ก็สาปส่งเธอ
อั้ม พัชราภา แม้จะเคยเล่นร้าย..น่าหมั่นไส้ กับบทบาท "แม่เปีย" จากละครดัง "คมพยาบาท" (2544) แต่ความร้ายครั้งนั้นก็นำมาสู่อาชีพนางเอกแถวหน้าของวงการ จนกระทั่งได้ร้ายอีกครั้งกับบทเมียน้อย "อรอินทร์" ในละครรีเมค "เมียหลวง" (2552) ผู้หญิงที่ไม่หยุดในรัก แม้ผิดศีลธรรมก็ไม่เว้น ความร้ายครั้งนั้น..ตอกย้ำความเป็นเบอร์หนึ่งของสาวคนนี้เข้าไปอีก แฟนๆ ยังนั่งรอลุ้นต่อไป จะมีบทแรงๆ แบบนี้มาโชว์ความสามารถอีกหรือเปล่า?
ชมพู่ อารยา ย้อนกลับไปครั้งตอนทิ้งท้ายบ้านเก่า ช่อง 7 สี ก็พลิกบทบาทร้ายสุดขั้วของ "รินลดา" ในละคร "ดาวเปื้อนดิน" ร้ายโรคจิต จนกลายเป็นที่ประทับคนทั้งเมือง ปิดจ็อบที่บ้านเก่าอย่างสวยงาม ก่อนจะสร้างปรากฏการณ์อีกครั้งให้ละครไทยกับบท "เรยา วงศ์เศวต" ในละครเรื่องดัง "ดอกส้มสีทอง" (2554) ที่ความแรง..ร้ายจัดของตัวละครนี้ กลายเป็นประเด็นโจษจันในสังคม ทุกคนต้องพูดถึง และทึ่งกับความสามารถของดาราสาวคนนี้...
นุ่น วรนุช เคยร้ายสุดๆ จนคนเกลียดกับบทบาท "แสนเสน่ห์" ในละคร "เปรตวัดสุทัศน์" (2546) อีกทั้งยังมาร้ายลึกๆ ฟาดกันกับเพื่อนสาวใน "กุหลาบเหนือเมฆ" (2552) ก่อนจะหันเหเส้นทางเป็นนักแสดงอิสระ จับผลงานเรื่องแรกกับช่อง 3 ในละคร "ทองเนื้อเก้า" กับบท "ลำยอง" ที่ลบคำสบประมาททุกคนได้ทั้งหมด พลิกรับบทแรง ร้าย อาละวาด จนกลายเป็นปรากฎการณ์ "ลำยองฟีเวอร์" เป็นกระแสที่ใครก็พูดถึงไปทั่ว
เจนี่ อัศวเหม ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยรับบทนางเอกในรูปแบบต่างๆ นางเอกเจ้าน้ำตา นางเอกคุณหนู นางเอกวีนเหวี่ยง แต่การมารับบทแซ่บๆ ในละครดัง "แรงเงา" (2555) บทฝาแฝดที่แตกต่างกันสุดขั้ว "มุนินทร์-มุตา" ทำให้มีแต่คนถูกถึงแต่สาวคนนี้ ด้วยบทละครที่แซ่บทุกอนู ความแรงและโดดเด่นของตัวละคร ซึ่งมาเพื่อจะแก้แค้นให้น้องสาว ทำให้ความร้ายแบบแรงๆ ของ มุนินทร์ กลายเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีชของดาราสาวคนนี้ไปอีกเรื่อง